วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

A SOUND OF THUNDER 2054 เจาะไดโนเสาร์โลกล้านปี



A SOUND OF THUNDER 2054 เจาะไดโนเสาร์โลกล้านปีประเภท แอ็คชั่น, ไซไฟ ,ทริลเลอร์
นำแสดง เอ็ดเวิร์ด เบิร์นส ( The Brothers McMullen )
เบน คิงสลี่ย์ ( House of Sand and Fog ) แคทเธอลีน แม็คคอแม็ค
กำกับการแสดง ปีเตอร์ ไฮแอม ( End of The Days, The Musketeers, The Relic )
เขียนบท โธมัส โดเนลลี่, เกรกอรี่ ปัวริเย่ร์
จัดจำหน่ายโดย มงคลเมเจอร์
Official Site: ASoundofThunder.com

เรื่องย่อ

A Sound of Thunder สร้างจากเรื่องสั้นของเจ้าพ่อนิยายวิทยาศาสตร์ระดับรางวัล เรย์ แบรดเบรี่ ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ระทึกขวัญเรื่องนี้มีฉากหลังเป็นโลกอนาคตสุดทันสมัยปี 2055 ซึ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าถึงขั้นที่ว่าการเดินทางข้ามเวลาไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป มหาเศรษฐีบางคนจึงมีวิธีหย่อนใจแบบใหม่ นั่นคือ การเดินทางย้อนเวลาไปล่าไดโนเสาร์ในโลกยุคก่อนประวัติศาสตร์

มีกฎในการเดินทางอยู่เพียง 3 ข้อ นั่นคือ ห้ามทิ้งอะไรเอาไว้, ห้ามนำอะไรกลับมา และที่สำคัญที่สุดคือ ห้ามเปลี่ยนสิ่งใดในอดีตเด็ดขาด เพราะการเปลี่ยนแปลงเพียงนิดเดียวก็อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อวิวัฒนาการเกินกว่ามนุษย์จะจินตนาการถึง
Time Safari Inc. คือ บริษัทจัดทัวร์ย้อนอดีตที่ดังที่สุด กระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อผู้ร่วมเดินทางคนหนึ่งละเมิดกฎ จนระบบวิวัฒนาการปั่นป่วนและไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น

ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆที่ส่งผลต่อบรรยากาศและสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ กระทั่งลุกลามอย่างรวดเร็วสู่ห่วงโซ่อาหารและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เพียง 24 ชั่วโมงการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอย่างรุนแรงทั่วทั้งเมือง จนความสงสัยใคร่รู้ของผู้คนกลายเป็นความผวากลัว ที่อ่าวมิชิแกน ปลาทะเลพากันเกยตื้น พืชพันธุ์ก็เติบโตรวดเร็วผิดปกติราวกับดินแดนเขตร้อนเมื่อล้านปีก่อน มันแตกหน่อตามทางเท้าพร้อมรากยักษ์ที่ชอนไชไปทั่วบริเวณ พังรถราจนยับเยินและปกคลุมตึกรามบ้านช่องจนมืดมิด ตามมาด้วยเหล่าแมลงและสัตว์ที่เคลื่อนไหวรวดเร็วเกรี้ยวกราดอย่างแมลงสาบและตั๊กแตนที่บินว่อนเป็นฝูงจำนวนมหาศาล สิ่งมีชีวิตนักล่าที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนปรากฎตัวขึ้นในรูปลักษณ์เลื้อยคลานที่ดุร้ายและฉลาดจนน่าขนลุก พวกมันเคลื่อนไหวคืบคลานบนดินแดนชวนน่าสะพรึง

มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่เดาออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น นั่นคือ ดร.เทรวิส ไรเออร์ (เอ็ดเวิร์ด เบิร์น) หัวหน้าทีมผู้ดูแลการเดินทางย้อนเวลาแห่งบริษัท Time Safari และ ดร.ซอนย่า แรนด์ (แคเธอรีน แม็คคอร์แม็ค) นักวิทยาศาสตร์มากพรสวรรค์ผู้คิดค้นเทคโนโลยีการเดินทางข้ามเวลา ส่วนชาร์ลส์ แฮตตัน ผู้บริหารแห่ง Time Safari คือคนที่ขโมยสูตรที่ยังไม่ได้ทดลองไปทำธุรกิจโดยไม่สนใจคำเตือนใดๆ

ขณะที่ทุกฝ่ายต่างหวาดผวาและเวลาก็เหลือน้อยเต็มที ไรเออร์และแรนด์ต้องหาทางกลับไปแก้ไขสาเหตุของหายนะเพื่อเอาตัวรอดและกู้ชีวิตมนุษยชาติไม่ให้สูญพันธุ์ แต่เมื่อความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเป็นระลอกตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โลกปัจจุบันของเขาจึงพังทลายลงตรงหน้าอย่างไม่มีทีท่าจะหยุด


“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามเปลี่ยนสิ่งใดเป็นอันขาด”

เกร็ดภาพยนตร์

- นี่คือ ภาพยนตร์ที่ตั้งคำถามให้คนดูเกิดความอยากรู้ว่า จริงหรือ? ที่ว่า มหาวิปโยคเกิดขึ้นได้ด้วยการตายของผีเสื้อเพียงตัวเดียว!! นี่จะเป็น การทดสอบทฤษฎี Butterfly Effect บนโลกแผ่นฟิล์มที่เหมือนจริงที่สุด

- ภาพยนตร์ไซไฟที่ทุ่มทุนสร้างกว่า 3,200 ล้านบาท ที่เนรมิตฉากแห่งโลกอนาคตและอดีตกาลขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึงเทคนิคของคอมพิวเตอร์กราฟฟิคตระการตาที่เนรมิตสิ่งมีชีวิตประหลาดขึ้นมาอย่างอลังการ

- เป็นการผสมผสานภาพยนตร์ 2 ประเภทที่ถล่มความสนใจของคนทั่วโลกมาหลายยุคหลายสมัย ทั้ง แนวสัตว์ประหลาดสุดตื่นตา (Creature Feature) แนวภาพยนตร์ที่มีจูราสสิคปาร์ค นำทีมตามด้วย แกมลินส์ , เอเลี่ยน , อี.ที. ฯลฯ ที่ทำตัวเลขรวมรายได้กวาดไปกว่า 2,240 ล้านเหรียญ และ ประเภทการย้อนเวลาสู่อดีต สนองความอยากรู้ของมนุษย์ที่ไม่มีวันจบสิ้น (Time Travel) นำทีมโดย Back To The Future ประเภทที่มีตัวเลขถล่มไปอีก 1,546 ล้านเหรียญ อีกทั้งยังเป็นการกลับมาของภาพยนตร์สไตล์ผจญภัยสู่โลกไดโนเสาร์ โปรดักชั่นไดโนเสาร์ฟอร์มยักษ์ในรอบหลายๆ ปี หลังจากที่ จูราสสิคปาร์ค ทั้ง 3 ภาค เคยนำร่องความสำเร็จมาแล้ว

- ตั้งแต่เริ่มตั้งโปรเจ็คภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้น ก็ได้รับความสนใจจากดาราและผู้กำกับมากมาย รวมถึง พระเอก เพียซ บรอสแนน และผู้กำกับ เรนนี่ แฮร์ลิน จาก Deep Blue Sea ก่อนที่ต้นสังกัดจะมาลงตัวทั้งเรื่องฝีมือและคิวงานที่พระเอก เอ็ดเวิร์ด และผู้กำกับ ปีเตอร์ จาก End Of The Days

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น